เครดิตบูโร ? กับ สินเชื่อ ? เกี่ยวข้องกันอย่างไร?
แล้วจะส่งผลโดยตรงกับการกู้ขอสินเชื่อมั้ยนะ?
.
? ในปีนี้เศรษฐกิจอาจจะค่อย ๆ คลี่คลาย มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น ?? แต่สถานะการเงินของแต่ละคนอาจจะไม่ได้มีสภาพคล่องทันที แล้วเครดิตการเงินและสินเชื่อของเราเป็นยังไงบ้างนะ? จะวางแผนการกู้สินเชื่อและการชำระหนี้สินเชื่อยังไงดี? มาทำความเข้าใจกับ “เครดิตบูโร” และความเชื่อมโยงที่มีกับ “สินเชื่อ” กับ ‘Bank Tanjai’ กันก่อน วันนี้เราจะได้รู้กันว่าจะประเมินการกู้ขอสินเชื่อในอนาคต ? หรือเปลี่ยนวงเงินเป็นเงินสดกันดี ?
.
? เครดิตบูโร (Credit Bureau) หรือ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด เป็นหน่วยงานที่รวบรวมข้อมูลสินเชื่อของผู้ขอกู้สินเชื่อ โดยจะทำการรวบรวมข้อมูลการอนุมัติสินเชื่อทั้งหมดจากสถาบันการเงินซึ่งเป็นพันธมิตรสมาชิกของบริษัทมาประกอบกันเป็นข้อมูลให้กับผู้กู้คนนั้น ๆ ผู้กู้จึงจะสามารถตรวจสอบประวัติสินเชื่อของตนได้ผ่านรายงานเครดิตบูโร ซึ่งจะมีข้อมูลทั้งหมดว่า กู้สินเชื่ออะไรไปบ้าง ไม่ว่าจะเป็น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถ และสินเชื่อนั้นได้รับการอนุมัติเมื่อไร มีการผ่อนชำระเกิดขึ้นอย่างไรบ้าง หรือผ่อนชำระสินเชื่อนั้นเสร็จเรียบร้อยปิดบัญชีแล้ว เป็นประวัติโดยละเอียดย้อนหลังไป 36 เดือน ที่ทั้งผู้กู้และสถาบันการเงินสามารถนำไปใช้เพื่อพิจารณาการขอกู้สินเชื่อในอนาคตได้
.
? เพราะฉะนั้นจึงเรียกได้ว่า “เครดิตบูโร” เปรียบเสมือนห้องสมุดที่รวมข้อมูลสำคัญสำหรับสินเชื่อทั้งหมด และมีผลต่อ “สินเชื่อ” ในเรื่องของการขอกู้เงินในอนาคต เป็นเรื่องของเครดิตทางการเงินที่ตัวผู้กู้จะต้องรักษาสถานะของตนให้เคลียร์ปลอดหนี้สินเชื่อให้เรียบร้อยตามลำดับ ในทางกลับกัน “สินเชื่อ” จะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ “เครดิตบูโร” แต่ถ้าหากผู้กู้ได้ยื่นขอสินเชื่อไปเพิ่มเติมข้อมูลเหล่านั้น ก็จะเติมเข้าไปอยู่ในคลังข้อมูลของ “เครดิตบูโร” ตามไทม์ไลน์การขอกู้สินเชื่อ
.
❓ เพิ่มเติมอีกนิดเกี่ยวกับสถานะบัญชีที่เป็นตัวเลขในรายงานเครดิตบูโร หากผู้กู้ไปทำการยื่นขอรายงานสินเชื่อของตนเอง เพื่อวางแผนการเงินหรือวางแผนการชำระหนี้ในอนาคต ในรายงานจะมีตัวเลขแสดงที่ “สถานะบัญชี” อยู่ 4 แบบด้วยกัน
10 – ปกติ คือ สถานะสะอาดคลีน ชำระสินเชื่อครบถ้วน ไม่มียอดค้างชำระ ไม่มีหนี้สินเชื่อ
11 – ปิดบัญชี คือ เคยค้างชำระสินเชื่อมาก่อน แต่ได้ชำระสินเชื่อจนครบถ้วน เรียบร้อย ปิดจ็อบ!
12 – พักชำระหนี้ ตามนโยบายรัฐ คือ ได้ชำระหนี้บางส่วน ปัจจุบันเลือกโครงการพักชำระหนี้อยู่
20 – หนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน คือ สถานะชัดเจน ค้างชำระหนี้มาจนถึงปัจจุบัน
.
⚠️ สิ่งที่มักถูกเข้าใจผิดเกี่ยวกับ เครดิตบูโรและสินเชื่อ⚠️
❌ ติดบูโร/ติด Blacklist เลยยื่นขอกู้เงินสินเชื่อไม่ผ่าน
ต้องแจ้งก่อนเลยว่าการติดบูโรที่ว่านี้ไม่มีอยู่จริง เพราะตัวเครดิตบูโรเป็นเพียงแค่ห้องสมุด คลังข้อมูลเท่านั้น การติดบูโรหรือ blacklist นั้นไม่ใช่หน้าที่ของเครดิตบูโรแต่อย่างใด แต่เป็นการตัดสินใจและพิจารณาจากสถาบันการเงินต่างหาก ที่จะขึ้นบัญชีดำ (Blacklist) กับผู้กู้โดยตรง เนื่องจากประวัติการกู้เงิน หรือตัวผู้กู้ค้างชำระหนี้ มีหนี้เสียหลายบัญชี
❌ ประวัติเครดิตไม่ดีเป็นเพราะเครดิตบูโร
สืบเนื่องมาจากความเข้าใจผิดด้านบนเช่นเดียวกัน ประวัติเครดิตไม่ดี มาจากตัวผู้กู้ที่ไม่สามารถชำระสินเชื่อได้ตามกำหนด ทำให้ประวัติเครดิตของตนนั้นไม่ดี ซึ่งผลของเครดิตนี้เป็นแค่การแสดงผลรวม ซึ่งผู้กู้เองก็จะมีทั้งเครดิตที่ดีและไม่ดีผสมอยู่ในรายงานเดียวกัน หากต้องการเคลียร์ประวัติเครดิตไม่ดี ผู้กู้ก็ต้องวางแผนการชำระหนี้ให้ดี และเคลียร์หนี้สินเชื่อเก่าให้เสร็จสิ้น
.
เพราะฉะนั้นการรักษาเครดิตสินเชื่อของตนเองให้ดีนั้นจำเป็น! ผู้กู้ต้องวางแผนชำระหนี้สินเชื่อที่เหมาะสมและครอบคลุมสภาพการเงิน หากคุณสามารถเปลี่ยนวงเงินบัตรเครดิตให้เป็นเงินสดเพื่อรักษาประวัติเครดิตดี ๆ ของเครดิตบูโร ทักหา ‘Bank Tanjai’ ได้เลย ?
__________
สนใจสอบถามหรือใช้บริการได้ที่??
Line: @banktanjai หรือคลิก https://lin.ee/2PhzdvU
Tel: 098 898 9164, 089 889 8190
#BankTanJai #เงินทันใจใช้ทันฝัน #รูดบัตรเครดิตเป็นเงินสด